5 ข้อเปรียบเทียบ​ของบ้าน ระหว่าง บริษัท​รับสร้างบ้าน​ กับ โครงการบ้านจัดสรร

การ สร้างบ้าน สักหลังหนึ่งนับว่าไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะบ้านเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูง บางคนเก็บออมทำงานกว่าครึ่งชีวิตกว่าจะได้มาเป็นเจ้าของบ้านสักหนึ่งหลัง ดังนั้นเราจะมาช่วยไขคำตอบ ให้กับผู้ที่กำลังตัดสินใจจะซื้อบ้านจากโครงการหมู่บ้านจัดสรร หรือ เลือกซื้อที่ดินในทำเลที่ชอบและมองหาผู้รับเหมา รับสร้างบ้าน ดีๆมาช่วยสร้างบ้านดีกว่าไม? ด้วยคำถามยอดฮิตดังกล่าวนี้ ทั้งสองทางเลือกต่างมีข้อดีและด้อยต่างกันไป เราจึงได้รวบรวมข้อมูลเปรียบเทียบระหว่างการซื้อบ้านจัดสรรกับการจ้างบริษัทที่รับสร้างบ้าน มาฝากเพื่อเป็นข้อมูลใช้พิจารณาก่อนตัดสินใจ

1. ค่าใช้จ่าย

หากจะลองนำมาเปรียบเทียบกันค่าใช้จ่ายของบ้านจัดสรร กับการ สร้างบ้าน โดยบริษัทรับเหมาก่อสร้าง บ้านจัดสรรมีค่าใช้จ่ายแน่นอนตามราคาขายของโครงการ แต่ราคาก็มักจะแพงกว่าบ้านสร้างเองโดยบริษัทรับสร้าง โดยเฉพาะเมื่อเทียบขนาดและบริเวณที่ได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับการเลือกบริษัทรับสร้างบ้านที่น่าเชื่อถือด้วย เพราะมีผลที่จะช่วยให้งบประมาณไม่บานปลาย

2. การออกแบบพื้นที่ส่วนต่างกับการใช้สอยของตัวบ้าน

เกือบจะทุกโครงการของบ้านจัดสรรการออกแบบบ้าน จะถูกกำหนดกรอบให้บ้านทุกหลัง หรือแบบบ้าน โมเดลนั้นของโครงการมีพื้นที่การใช้งาน การแบ่งพื้นที่ห้องนอน พื้นที่ห้องรับแขก พื้นที่ครัว หรือ พื้นที่ห้องน้ำ และ function การใช้งานปลีกย่อยต่างๆไว้เหมือนๆกันหมด ซึ่งคงไม่สามารถจะตอบโจทย์เข้ากันได้กับทุกๆครอบครัว เมื่อเป็นเช่นนี้ในบางครั้ง ผู้ซื้ออยากทำการเปลี่ยนแปลงก็อาจไม่สามารถทำได้ๆทันที อาจถูกบังคับให้รับโอนไปก่อนจะทำอะไรก็ให้ทำหลังจากโอนสิทธิ์เปลี่ยนมือให้กันไปแล้ว และบางโครงการก็มีกำหนดไว้ในสัญญาอีกว่าหากมีการแก้ไขใดกับข้อกำหนดตามสัญญา อาจทำให้การประกันบ้านสิ้นสุดลงซึ่งผิดกับการหาบริษัทที่ รับสร้างบ้าน เข้ามาจัดการก่อสร้างให้ตามแบบที่ได้ถูกออกแบบมาตามความต้องการของเจ้าของบ้านโดยตรงจะทำให้ตอบโจทย์ ตรงกับความต้องการได้มากกว่า

3. คุณภาพของวัสดุและฝีมือการสร้าง

วัสดุต่าง ๆ ของโครงสร้างบ้าน เช่น เสา ปูน คอนกรีต โครงหลังคา กระเบื้องหลังคา วัสดุตกแต่ง อันได้แก่ ประตูหน้าต่าง กระเบื้องปูพื้น กระเบื้องปูผนัง สุขภัณฑ์ หรืองานระบบไฟฟ้า ระบบปรับอากาศ โครงการบ้านจัดสรร นั้นเจ้าของบ้านแทบไม่มีโอกาสเลือกเองได้ ซึ่งโครงการส่วนใหญ่จะให้วัสดุ ในระดับที่พอใช้ได้ ไปจนถึงระดับปานกลาง ในด้านฝีมือการก่อสร้างของช่างบ้านจัดสรร เจ้าของบ้านไม่สามารถที่จะตรวจสอบอะไรได้มากนัก อาจจะกล่าวได้ว่าขึ้นอยู่กับโชคดีและโชคร้าย เช่น ปูกระเบื้องไม่ได้ระดับ หรือเรียบเสมอ ทำการลักไก่ไม่ทำการฉาบปูนในที่มองไม่เห็น เช่นห้องเก็บของใต้บันได ซึ่งผู้ซื้อเองต้องเลือกโครงการบ้านจัดสรรที่ไว้วางใจและน่าเชื่อถือ แต่สำหรับบ้านที่สร้างขึ้นจาก บริษัทรับสร้างบ้าน นั้นเจ้าของสามารถเลือกวัสดุได้เองตามใจจึงได้ของที่ดีกว่า ตรวจสอบได้ทั้งวัสดุและฝีมือการสร้างของช่างได้ก่อนตัดสินใจ

4. ความยุ่งยากและระยะเวลา

การซื้อบ้านจาก โครการบ้านจัดสรรนั้นไม่ยุ่งยาก เมื่อพอใจก็สามารถเลือกซื้อและชำระเงินตามเงื่อนไข เรียกได้ว่ารอโอนพร้อมเข้าอยู่ได้เลย แต่บ้านสร้างโดนบริษัทต้องมีเวลามาตรวจสอบในแต่ละขั้นตอน และการเลือกวัสดุบางอย่างด้วยตนเอง เจ้าของบ้านจึงต้องใช้เวลาในการดำเนินการก่อสร้างที่ยาวนานกว่า เพื่อให้ได้บ้านที่ตรงกับความต้องการอย่างแท้จริงนั่นเอง

5. ทำเลและขนาดของบ้าน

บ้านจัดสรรเราอาจจะเลือกทำเลของหมู่บ้าน ที่ตั้งตัวบ้านได้แต่ก็ค่อนข้างมีความจำกัด เพราะไม่ใช่ทุกที่จะมีโครงการจัดสรรที่เราถูกใจในทำเลที่เราต้องการ แต่ถ้าเลือกซื้อที่ดินเองก็จะมีโอกาสเลือกได้ทำเลที่ถูกใจกว่าและขนาดพื้นที่กว้างกว่าโครงการบ้านจัดสรร เพราะโครงการบ้านแต่ละแห่ง มักจะมีค่าที่ดินแพงกว่า เนื่องจากบวกกำไรและระบบสาธารณูปโภคไว้แล้ว

บทสรุปจากการเปรียบเทียบทั้ง 5 หัวข้อนี้ พอสรุปออกมาให้เห็นภาพได้ชัดเจนดังนี้

• ใครที่อยากได้บ้านที่มีพื้นที่ใช้สอยตามใจผู้อยู่ มีฟังก์ชั่นการใช้งานครบอย่างที่ต้องการ การเลือกว่าจ้างบริษัทที่รับสร้างบ้าน ให้มาดำเนินการก่อสร้างก็จะช่วยให้ได้รับความสบายใจในเรื่องบ้านมากกว่า
• ส่วนใครที่อยากได้บ้าน ที่มีทุกสิ่งทุกอย่างให้ครบถ้วนแล้ว โดยแม้ว่าจะมีจุดเล็กๆ น้อยๆ ให้ต้องต่อเติมหรือปรับเปลี่ยนภายหลังบ้าง โครงการบ้านจัดสรรก็คือ คำตอบที่น่าสนใจที่สุด “แล้วคุณล่ะ? ชอบบ้านแบบไหนมากกว่ากัน” 

แนะนำบริษัทรับสร้างบ้าน https://www.trendyhome.co.th