ปริ้นเตอร์ มีกี่แบบ อะไรบ้าง เลือกยังไงให้เหมาะกับการใช้งาน?

นอกจากปริ้นเตอร์แบบ Inkjet กับ Laser ที่เราได้พูดถึงกันไปแล้ว และ เป็นประเภทเครื่องปริ้นที่คนส่วนใหญ่รู้จัก แต่ทุกคนเคยสังเกตกันไหมว่าจริง ๆ แล้วเครื่องปริ้นมีหลากหลายประเภทมาก ไม่ว่าจะเป็นแบบเครื่องปริ้นฉลาก เครื่องปริ้น 3D เครื่องปริ้นรูป เครื่องปริ้นแบบครบจบในเครื่องเดียว หรือที่เรียกว่า All-in-one printer ทาง Earthshop เลยจะขอพาทุกคนไปลองดูกันว่าปริ้นเตอร์มีแบบไหนบ้าง กี่ประเภท แบบไหนเหมาะสำหรับใช้พิมพ์งานอะไร หรือ อาจจะช่วยเป็นแนวทางสำหรับคนที่กำลังมองหาปริ้นเตอร์อยู่

ประเภทของปริ้นเตอร์

ปริ้นเตอร์มีหลากหลายประเภท ตอบโจทย์การใช้งานที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานที่บ้าน home office หรือ ที่สำนักงาน อีกทั้งยังมีหลากหลายช่วงราคา ตั้งแต่ เครื่องปริ้นรูปอิงค์เจ็ทแบบราคาย่อมเยาว์ ไปจนถึง เครื่องปริ้นสีเลเซอร์แบบคุณภาพสูง หรือ แบบ Multifunction / All-in-one ทำให้เราเลือกที่ตอบโจทย์กับเราได้ ดังนั้นก่อนที่จะไปเจาะลึกเครื่องพิมพ์แต่ละแบบ เราลองมาตอบคำถามนี้กันก่อนว่า เราใช้ Printer ทำอะไรเป็นหลัก? เช่น บางคนอาจบอกว่าใช้พิมพ์งานเอกสาร ดังนั้น ปริ้นเตอร์ขาวดำก็เพียงพอ ในขณะที่บางคนต้องปริ้นงาน presentation ต้องใช้สีด้วย หรือ บางคนต้องมีการแสกนเอกสาร ถ่ายเอกสารบ้าง แต่อาศัยอยู่คอนโด พื้นที่จำกัด แบบนี้ All-in-one printer ก็ดูจะเป็นตัวเลือกที่ดีไม่ใช่น้อย

• เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท (Inkjet Printer)

ปริ้นเตอร์ inkjet เรียกได้ว่าเป็นปริ้นเตอร์ที่ได้รับความนิยมมากสำหรับ home use หรือ การใช้งานทั่วไปภายในบ้าน ด้วยความที่ราคาสมเหตุสมผล ทั้งในส่วนของตัวเครื่องปริ้นเอง และ หมึกที่ใช้คู่กับเครื่องปริ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นตัวหมึกอาจจะมีอายุการใช้งานที่สั้นกว่าแบบตลับหมึกที่ใช้ในเครื่องปริ้นแบบเลเซอร์ ทำให้บางครั้งอาจจะเจอปัญหาที่ปริ้นแล้วงานพิมพ์สีเพี้ยน อาจเป็นเพราะตัวหมึกที่เติมบางสีหมด หรือ หัวพิมพ์อุดตัน

เครื่องปริ้น Inkjet เหมาะกับใคร?

จริง ๆ แล้วเครื่องปริ้นแบบนี้ค่อนข้างตอบโจทย์ประเภทการพิมพ์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น

ตั้งแต่การปริ้นรูปถ่ายความละเอียดสูงลงบนกระดาษ Photo ปริ้นเอกสารทั่วไป ฉลาก หรือ ตัวที่ไว้

ทาบกับเสื้อแล้วใช้ความร้อนจากเตารีดเพื่อติด เป็นต้น

• เครื่องพิมพ์เลเซอร์ (Laser Printer)

ปริ้นเตอร์ laser จากชื่อที่มีความชัดเจนถึงวิธีการทำงานของเครื่องพิมพ์ประเภทนี้ นั้นก็คือ การใช้แสงเลเซอร์เพื่อให้ความร้อนกับหมึก toner ที่จะฝังลงไปบนกระดาษ ซึ่งส่วนใหญ่หลาย ๆ ออฟฟิศ มักจะใช้ เครื่องปริ้นเลเซอร์ แบบขาว-ดำ ในการปริ้นเอกสารทั่วไป หรือ แบบสีก็เช่นเดียวกันเพราะรองรับการปริ้นที่หลากหลายกว่า ซึ่งถ้าเรามองข้อดีของเครื่องพิมพ์แบบ Inkjet ในเรื่องราคากันไปแล้ว เครื่องพิมพ์แบบ Laser ก็เรียกได้ว่ามีดีไม่แพ้กัน ในเรื่องของความเร็วในการพิมพ์ และ คุณภาพที่ดีกว่า ซึ่งจุดนี้ก็ต้องแลกมากับราคาที่อาจสูงกว่า Inkjet printer ด้วยเช่นเดียวกัน แต่ถือได้ว่าปัจจุบันราคาลดลงกว่าสมัยก่อนพอสมควร

เครื่องปริ้น Laser เหมาะกับใคร?

สำหรับใครที่เน้นพิมพ์งานจำนวนมาก ความเร็วในการพิมพ์งานก็ถือว่าเป็นสิ่ง

สำคัญ ดังนั้นเครื่องปริ้น laser ถึงตอบโจทย์ในจุดนี้ รวมไปถึงเรื่องของอายุการใช้งานหมึก

ที่นานกว่า ทำให้ไม่ต้องเปลี่ยนตลับหมึกบ่อย

• เครื่องพิมพ์ออลอินวัน (All-in-one Printer)

ครบจบในเครื่องเดียวต้องยกให้เครื่องปริ้นแบบบ All-in-one หรือที่เรียกว่า multifunction เพราะรองรับทั้งการพิมพ์ แสกน ถ่ายเอกสาร และ แฟกซ์ ซึ่งเครื่องปริ้นประเภทนี้มีทั้งแบบ Inkjet และ Laser ซึ่งทำให้เราไม่ต้องซื้อเครื่องแสกน เครื่องถ่ายเอกสาร หรือ เครื่องแฟกซ์ เพิ่มเติม เรียกได้ว่าอเนกประสงค์จริง ๆ

เครื่องปริ้น All-in-one เหมาะกับใคร?

เครื่องปริ้นแบบนี้ได้รับความนิยมในการใช้งานตาม office อย่างมาก โดยจะเป็น

เครื่องขนาดใหญ่สักส่วนใหญ่ แต่จริง ๆ แล้วก็มีเครื่องปริ้น all-in-one ที่มีขนาดเทียบเท่า 

หรือ ใกล้เคียงกับเครื่องปริ้นขนาดปกติ ดังนั้นจึงตอบโจทย์กับทั้งคนที่ work from home เป็นหลัก หรือ รองรับการใช้งานทั้งครอบครัว ข้อดีอีกอย่างคือพอครบจบในเครื่องเดียวแล้ว ทำให้ประหยัดพื้นที่ไปได้มาก

• เครื่องพิมพ์ซูเปอร์แทงค์ (Supertank Printer)

เรียกได้ว่าเครื่องปริ้น Supertank เป็นหมวดหมู่ย่อยของเครื่องปริ้นแบบ Inkjet และ เครื่องปริ้นแบบ  Multifunction โดยเครื่องพิมพ์ Supertank มีขนาดใหญ่ เติมหมึกได้ โดยถ้าหากเรามีการปริ้นงานจำนวนมาก และไม่อยากคอยเปลี่ยนตลับหมึก การที่ใช้หมึกเติมก็นับว่าตอบโจทย์

เครื่องปริ้น Supertank เหมาะกับใคร?

เครื่องพิมพ์ Supertank นับว่าเป็นอีก 1 ประเภทที่รองรับการปริ้นงานที่หลากหลาย 

ถ้าหากเราไม่อยากคอยเปลี่ยนตลับหมึก หรือ กังวลในเรื่องของวิธีการเปลี่ยนตลับ การที่

คอยเติมหมึกก็นับว่าเป็นอีก 1 ตัวเลือกประกอบการตัดสินใจที่ดี และพอเป็นตัวเลือกนี้ทำให้

ประหยัดค่าใช้จ่ายตลับหมึกไปในตัวอีกด้วย สำหรับคนที่เน้นพิมพ์งานในปริมาณมาก

• เครื่องพิมพ์หมึก sublimation (Dye-sublimation Printer)

เครื่องปริ้น แบบนี้ถูกออกแบบมาให้พิมพ์ลงบนพื้นผิวที่เฉพาะเจาะจง อย่างการพิมพ์ลงบนพลาสติก เช่น การพิมพ์ข้อมูลลงบนบัตรประชาชน เป็นต้น

เครื่องปริ้น Dye Sublimation เหมาะกับใคร?

เนื่องจากวัตถุประสงค์การพิมพ์ของ เครื่องปริ้น ประเภทนี้ค่อนข้างที่จะชัดเจนมาก ๆ  

อย่างเช่น การพิมพ์ข้อมูลบนบัตร การพิมพ์ลวดลายต่าง ๆ ลงบนแก้วน้ำ ขวดน้ำพลาสติก

• เครื่องพิมพ์หัวเข็ม (Dot Matrix Printer)

เป็นเครื่องพิมพ์ในแบบที่พัฒนามาจากเครื่องพิมพ์ดีด และเป็นเครื่องพิมพ์ประเภทแรก ๆ โดยวิธีการพิมพ์จะเป็นการที่กดหัวเข็มลงบนผ้าหมึก

เครื่องปริ้น Dot Matrix เหมาะกับใคร?

ปัจจุบันเครื่องปริ้นประเภทนี้นิยมใช้กับ การพิมพ์บิล ใบเสร็จ และการพิมพ์สำเนา

เอกสาร ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ได้เน้น คุณภาพความละเอียดสูง

• เครื่องพิมพ์ 3 มิติ (3D Printer)

เรียกได้ว่าเป็นชนิดเครื่องพิมพ์ที่มาพร้อมกับ เทคโนโลยีที่ค่อนข้างซับซ้อน และค่อนข้างได้รับความนิยมในช่วงหลังเป็นอย่างมาก เช่น ในวงการวิศวะ การออกแบบต่าง ๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการปริ้นขึ้นรูปพลาสติก

เครื่องปริ้น 3D Printer เหมาะกับใคร?

ศิลปิน วิศวกร นักอออกแบบ หรือ ครีเอทีฟ ก็เรียกได้ว่า 3D printer ค่อนข้างตอบ

โจทย์กับรูปแบบลักษณะงาน ทำให้เห็นภาพได้ง่ายยิ่งขึ้น เป็น prototype ที่สมจริงขึ้น

อ้างอิง

https://www.adorama.com/alc/what-are-the-different-types-of-printers/