ครั้งนี้ที่จริงเราก็กะว่าจะมารีวิวทริปเที่ยวหาดใหญ่และเมืองสงขลา แต่ไปๆมาๆมันดูกลายเป็นทริปที่เน้นกิน กินตลอดเวลามาก เราเลยขอเปลี่ยนเป็นพาไปชิมอาหารร้านต่างๆแทนก็แล้วกันเนอะ ใครที่กะว่าจะไปหาดใหญ่ หรืออ.เมืองสงขลา ถูกใจร้านไหน ก็ลองไปชิมกันดูนะคะ
ปอลอ ขอขอบคุณรูปหลายๆรูปจากกล้องเพื่อนร่วมทางหลายๆคนมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
สาเหตุที่ทำให้พวกเราต้องยกขโยงลงใต้กันในครั้งนี้ ก็คือมีเพื่อนรุ่นพี่แต่งงานที่โรงแรมแถวหาดสมิหลาค่ะ ก็เลยถือโอกาสอยู่เที่ยวต่ออีกนิดนึง ไหนๆก็ลงมาแล้ว โรงแรมที่พักในครั้งนี้ชื่อว่า ‘ราชมังคลาสงขลาเมอร์เมด’ ตอนได้ยินชื่อครั้งแรกนึกว่าเป็นสนามบอล 555 ซึ่งเป็นโรงแรมเดียวกันกับที่จัดงานแต่งงาน ราคาห้องละ 1200 บาทต่อคืน ห้องใหญ่มากกกกกกกกกค่ะ ถือว่าห้องดีเลย ห้องน้ำกว้าง แบ่งเป็นโซนฝักบัว(กั้นเป็นห้องอย่างเรียบร้อย) และยังมีอ่างอาบน้ำให้เรานอนแช่ด้วยนะ ผนังตรงอ่างเค้าทำเป็นหน้าต่างไม้บานใหญ่ค่ะ เปิดออกไปก็จะเห็นห้องนอน เซ็กซี่ซะไม่มี ถ้าใครไปกับแฟนคงวี๊ดวิ้วกันน่าดู
แอบเอารูปจากFBโรงแรมมาให้ดู
เริ่มต้นก็กินเลยละกัน มื้อแรกที่นี่เป็นอาหารเช้าของโรงแรมค่ะ มีเยอะพอสมควร มีแม่ครัวคอยทำเมนูไข่ จำพวกไข่ดาว ไข่คน ออมเล็ท มีไลน์บุฟเฟ่ต์พวกไส้กรอก ข้าวผัด ซุป สลัด ขนมปัง ที่เก๋คือมีขนมจีนน้ำยากะทิใต้ด้วยค่ะ ถือว่าผ่านนะโรงแรมนี้
ต่อมื้อเที่ยงด้วยร้านส้มตำแถวโรงแรมค่ะ แต่ไม่มีรูปนะ ถ่ายไม่ทัน555 รสจัดมากกกกกกค่ะ แซบน้ำมูกไหลเลยทีเดียว รสชาติที่นี่จะเน้นไปทางเค็มๆเผ็ดๆอ่ะค่ะ พวกเราก็ไส้บิดกันไป
หลังจากผ่านพ้นงานแต่งงาน เราก็จะเริ่มทริปกินด่ะแล้วค่ะ เป้าหมายแรกคือ ถนนนางงาม อ.เมืองสงขลา อยู่ไม่ไกลจากหาดสมิหลาค่ะซัก3-4กิโล ใช้เวลาไม่เกิน15นาทีค่ะ แต่ที่ลำบากคือบางถนนเค้าก็จะเดินรถทางเดียว ก็เลยวนๆงมๆกันอยู่นาน
ร้านแรกที่จะไปชิมกันก็คือ ร้าน ‘ข้าวสตูฮะเฮียง’ อยู่ไม่ไกลจากศาลเจ้าพ่อหลักเมืองค่ะ ตอนแรกที่เพื่อนบอกจะพาไปกินก็นึกถึงสตูฝรั่งที่มันข้นๆ พอไปเจอของจริงเลยแปลกใจนิดๆค่ะ เค้าจะมีให้เลือกทั้งหมูและไก่ ใครชอบเครื่องในก็มีให้ค่ะ น้ำซุปจะใสๆไม่ข้นค่ะ บรรยายยากจริงๆ รสชาติก็หอมๆอร่อยดีค่ะ พวกเราสั่งทั้งไก่ หมูและเครื่องในค่ะ (แต่เราไม่ได้ชิมเครื่องในนะ เลยไม่รู้ว่าเป็นยังไง ส่วนเนื้อก็นุ่มค่ะ ไม่เหนียว แต่มันก็จืดๆอ่ะ ต้องกินร่วมกับน้ำจิ้มและน้ำซุปค่ะ อร่อยเลย) นอกจากสองจานนี้ เราก็สั่งหมูแดงหมูกรอบมาด้วย อร่อยค่ะ นุ่ม ไม่เหนียว ส่วนหมูกรอบ ก็กรอบสมชื่อค่ะ สามจานหลักบวกกับข้าวเปล่าอีกเจ็ด ก็หมดไป400บาทค่ะกับมื้อนี้
แต่ยังไม่จบ เราจะไปกินก๋วยเตี๋ยวใต้โรงงิ้วด้วยค่ะ เห็นออกทีวีมาหลายครั้ง ต้องขอโดนซักที ที่ตั้งก็อยู่ในศาลเจ้าพ่อหลักเมืองนั่นแหละค่ะ จะเข้าไปกินก็ต้องลำบากกันนิดนึง เพราะเพดานมันต่ำมาก แทบจะคลานกันเข้าไป แต่ได้อารมณ์จริงๆ มีทั้งก๋วยเตี๋ยวหมูและไก่ค่ะ แต่ไม่แน่ใจว่ามีให้เลือกกี่เส้น เพราะตอนที่เราไปมีแค่หมี่วุ้นซึ่งก็คือเส้นหมี่นั่นเองค่ะ สั่งไป4ชามค่ะ แบ่งๆกันกินเพราะต้องกินอีกหลายอย่างค่ะ แม่ค้า(ซึ่งแอบดุนิดนึง)แนะนำให้กินลูกชิ้นหมูลวก ตอนแรกว่าจะไม่เอา แต่แม่ค้าบอกว่าถ้าไม่กินเหมือนมาไม่ถึง เลยต้องสั่งค่ะ แต่บอกเค้าเอาจานเล็กสุดนะ
ถ้าเป็นเรื่องกิน จะลำบากแค่ไหนก็ยอม
รสชาติก๋วยเตี๋ยวสำหรับเราคือเฉยๆนะ(ความเห็นส่วนตัว) มาแบบจืดๆต้องปรุงเอง แต่ที่นี่เค้าใช้น้ำเชื่อมแทนน้ำตาลนะ ส่วนลูกชิ้นมันเป็นเหมือนลูกชิ้นแคะอ่ะค่ะ ที่มันเป็นแป้งๆเหนียวๆ ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วเราไม่ชอบลูกชิ้นสไตล์นี้ จุดพีคอยู่ที่ตอนคิดเงินค่ะ ก๋วยเตี๋ยว4 ลูกชิ้น1ถ้วย น้ำเปล่า7แก้ว 314บาท ทุกคนตกอยู่ในอาการช็อคจ่ะ อาจจะผิดที่พวกเราเองที่ไม่ได้ดูป้ายราคาก่อน สรุปคือ ก๋วยเตี๋ยวชามละ 50!!! ซึ่งถ้าเทียบกับปริมาณที่ได้แล้วถือว่าแพงมากกกกกกกกกนะ แล้วไอลูกชิ้นถ้วยนั้นคือ100บาท คือป้ายเค้าเขียนว่าลูกชิ้นลูกละ2บาทนะ แต่เราไม่แน่ใจว่าถ้วยนั้นมีลูกชิ้นถึง50ลูกรึป่าวววว
50บาท O_O
ตอนหลังก็ตระหนักได้ว่า สงขลาและหาดใหญ่ค่าครองชีพสูงมาก ราคาอาหารนี่แทบจะเท่าหรือแพงกว่ากรุงเทพด้วยซ้ำ
หลังจากเฟลกับก๋วยเตี๋ยวแล้วก็ไปต่อของหวานกันเลยยย อย่างแรก เป็นขนมไข่เตาถ่านค่ะ ของ ‘เลิศเบเกอรี่’ สาขานี้เป็นรถเข็นค่ะ เค้าบอกเป็นสาขาเดียวที่ยังใช้เตาถ่านอยู่ อร่อยมากกกกกกกก อร่อยน้ำตาไหล เป็นขนมไข่ชิ้นเล็กๆค่ะ เนื้อนุ่ม ที่เด็ดคือเค้าจะใส่เนยลงไปหลังจากที่หยอดแป้งลงไปแล้ว คือเนยจะชุ่มมาก เค็มๆ และหอมมากค่ะ เสียดายที่เราได้แบบไม่ร้อน ถ้าร้อนๆนะคงจะบินได้กันเลยทีเดียว กล่องละ90ค่ะ แต่มีหลายชิ้นมากค่ะ น่าจะถึง50ชิ้น อันนี้ให้5กะโหลกเลย
หยอดแป้ง
ใส่เนย
ปิดฝา
ตู้มมมมมม กลายเป็นโกโก้ครั้นช์
ต่อด้วยไอติมถั่วเขียวตรงข้ามศาลเจ้าพ่อหลักเมืองค่ะ ใส่ไข่แดงและโรยผงไมโล ถ้วยนี้20บาท รสชาติก็เหมือนไอติมกะทิค่ะ อร่อยดี ไม่หวานมาก
ยังไม่จบกับไอติมค่ะ พวกเราจัดไอติมโอ่งกันต่อ มีรสดั้งเดิมกับรสลิ้นจี่ค่ะ เราเลือกรสลิ้นจี่ จะเป็นกลิ่นลิ้นจี่อ่อนๆ รสชาติประมาณไอติมนมสดค่ะ ถ้วยละ20เช่นกันค่ะ ที่นี่เค้าจะโรยผงไมโลตลอดเลยนะคะเท่าที่สังเกต อ่อ ร้านจะอยู่ติดกับร้านข้าวสตูเลยค่ะ
หลังจากกินแหลกกันแล้ว ก็แวะเที่ยวกันหน่อยค่ะ ไปขึ้นเขาตังกวน ชมวิวเมืองสงขลากันค่ะ
มาถึงก็ซื้อตั๋วเพื่อขึ้นลิฟท์ไปยังยอดเขากันค่ะ คนละ30บาท ต้องเก็บตั๋วไว้โชว์เจ้าหน้าที่ตอนขาลงด้วยนะคะ เนื่องจากลิฟท์มีตัวเดียวและค่อนข้างช้าเลยต่อคิวกันนานเลย
ปล่องลิฟท์
วันนั้นแดดดีมากค่ะ เผาตัวไหม้กันเลยทีเดียว แต่วิวข้างบนถือว่าสวยงาม เห็นเมืองสงขลากันแบบ360องศากันเลยทีเดียว ข้างบนนี้ก็มีพระเจดีย์หลวงซึ่งถือเป็นเจดีย์คู่บ้านคู่เมืองของสงขลาประดิษฐานอยู่ค่ะ
มีที่ให้คู่รักมาคล้องแม่กุญแจกันด้วยนะคะ โซโคเรียนนนน
อันยองงงง
เสร็จแล้วก็ไปเดินถ่ายรูปแถวหาดสมิหลากันต่อค่ะ ตรงจุดนี้จะมีรูปปั้นของหัวพญานาคอยู่ค่ะ ถ้าลงไปเรื่อยๆก็จะเจอส่วนลำตัวและส่วนหางค่ะ เก๋ทีเดียว แต่คงเดินไม่ไหวหรอกนะคะ แนะนำให้นั่งรถ เพราะแต่ละส่วนห่างกันซะเหลือเกิน
รูปปั้นนางเงือกค่ะ จุดบังคับที่ต้องมาถ่ายรูปของหาดสมิหลา
ทะเลสวยงามมากทีเดียว
เช้าวันต่อมาเราไปกินข้าวเช้ากันที่หาดใหญ่ค่ะ เป็นร้านติ่มซำชื่อดัง นั่นก็คือ ‘โชคดีแต่เตี้ยม’ นั่นเอง ร้านนี้ต้องไปกันเช้าหน่อยนะคะ ไม่งั้นหมดอดกิน ตอนที่ไปเปนวันอาทิตย์ คนแน่นมากค่ะ พอได้เลขโต๊ะแล้ว เราก็ไปเลือกติ่มซำให้เค้านึ่งให้พร้อมกับบอกเบอร์โต๊ะไว้ด้วยนะคะ นึ่งเสร็จเค้าจะมาเสิร์ฟให้ค่ะ รู้สึกว่าจะเข่งละ14บาท รสชาติดีเลยค่ะ อ่อ!ถ้าจะกินติ่มซำแบบหาดใหญ่แท้ ให้จิ้มกับน้ำจิ้มหวานๆที่คล้ายกับน้ำจิ้มไก่นะคะ แต่เค้าก็มีจิกโฉ่ไว้ให้ด้วยค่ะ ที่ต้องลองอีกอย่างคือบักกุดเต๋ มีให้เลือกทั้งชามเล็ก ชามใหญ่ กินกับปาท่องโก๋ อร่อยมากค่ะ อย่าลืมสั่งชาเย็นหรือชาร้อนด้วยนะคะ รสชาติสไตล์ชาชักมาเลย์ หอมและอร่อยมากค่ะ มื้อนี้ถือว่าถูกใจมากเลยทีเดียว
มาจิ้มเอาเลย
1…2…3
มือพันกันให้วุ่น
บักกุดเต๋
อร่อยยยยย
อิ่มแล้วก็ไปเดินย่อยกันที่ตลาดกิมหยงซะหน่อย มีของเยอะแยะมากมายค่ะ เป้าหมายของพวกเราก็คือถั่วและขนมค่ะ สิ่งที่อยากจะแนะนำให้ลองซื้อมาชิมกันก็คือชาชัก3in1 Teh Tarik ค่ะ กลิ่นหอมและไม่หวานมากค่ะ
มาหาดใหญ่ถ้าไม่พูดถึงไก่ทอดหาดใหญ่ก็กระไรอยู่ ร้านนี้เพื่อนเราซื้อมาให้กินค่ะ เค้าบอกว่าอร่อยสุดเลย ชื่อร้านคือ ‘ไก่ทอดซอฟียา’ เป็นร้านรถเข็นอยู่ฝั่งตรงข้ามร้านไก่ทอดเดชาเจ้าดังค่ะ ซึ่งก็อร่อยจริงๆ ขนาดซื้อกลับมากินบ้านนะไก่ยังกรอบนอกนุ่มใน รสชาติเข้าเนื้อเค็มกำลังดี หอมทอดก็ยังแห้งกรอบ ส่วนข้าวเหนียวก็เป็นเม็ดเรียงสวยค่ะ ปลื้มมากกกกก
เปลี่ยนอารมณ์มากินก๋วยเตี๋ยวกันบ้าง ไปที่ร้าน ‘ก๋วยเตี๋ยวเรือเฉินหลง’ กันค่ะ ที่เด็ดเลยคือน้ำตกเนื้อค่ะ รสชาติเข้มข้น น้ำซุปหวานหอม ถ้าใครกินเผ็ดไม่ได้ อย่าลืมบอกเค้าว่าไม่ใส่พริกนะคะ เพราะเค้าจะใส่พริกมาแบบจัดเต็ม ยังไม่พอ ยังมีพริกเผาตำมาให้เราใช้จิ้มเนื้อเพิ่มมาให้ด้วย รสชาติ5ดาวเลยค่ะ น่าจะชามละ70บาท แต่ถือว่าคุ้มราคาอยู่ ชามใหญ่มาก เรากินเหลือเส้นอยู่เกือบครึ่งชาม ส่วนเนื่อเปื่อยนั่น เปื่อยจริงๆค่ะ ไม่เหนียวเลย
แวะไปเที่ยวบ้างนะคะ อีกที่หนึ่งของหาดใหญ่ที่แนะนำให้ไปคือเขาคอหงส์ ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณสวนสาธารณะเทศบาลเมืองหาดใหญ่ และที่นี่ยังมีกระเช้าcable carให้นั่งด้วย แต่เราไม่ได้นั่งนะคะ แค่อยากมาชมวิวเมืองหาดใหญ่เท่านั้น ฝั่งที่เราขึ้นมาเป็นฝั่งสถานีcable car ทีมีพระพุทธมงคลมหาราชอยู่ค่ะ ลมเย็นและอากาศดีมาก บรรยากาศและวิวทิวทัศน์ก็สวยงามค่ะ
มองไปด้านล่างจะเห็นรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมขนาดใหญ่ เดินลงไปได้นะคะ
หิวอีกแล้วค่ะ ไปหาข้าวเย็นกินกันดีกว่า มื้อนี้เพื่อนพามาที่ร้านข้าวต้มเก่าแก่ ‘เซาะอึ้ง’ อยู่ใกล้ๆกับตลาดกิมหยงค่ะ แม้ว่ากับข้าวจะเป็นแบบทำไว้แล้ว ให้เราชี้เลือก แล้วเค้าก็จะตักใส่จานมาให้ รสชาติก็ยังอร่อยมากอยู่ค่ะ จานเด็ดสุดต้องยกให้หมูกรอบเลยค่ะ กรอบแต่ไม่แข็ง ถูกใจค่ะ
บรรยากาศภายในร้าน
หมูกรอบ ฟินมากกกกก
เป็ดกับจับฉ่าย
หมูสับผัดหนำเหลียบ
ยำปลาสลิด
ยังไม่พอ!!! ไปต่อของหวานกันค่ะ อีกสิ่งหนึ่งที่อยู่ในลิสต์ของเราเลยคือร้านชาและโรตีค่ะ คุณเพื่อนใจดีเลยพามาร้าน ‘หมื่นไม้ชาชัก’ ข้างมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จัดไปเบาๆกับโรตีทิชชู่กับชาเย็น แคลอรี่มาเต็มๆค่ะ โรตีบางมากกกกก กรอบอร่อย ส่วนชาเย็นก็เด็ดค่ะ มีชาร้อนเสิร์ฟให้ฟรี (ไม่อยากจะคุยว่าแม้แต่ชาฟรียังอร่อยอ่ะ)
ชาฟรี
ชาชัก
โรตี
ร้านสุดท้ายที่จะพาไปคือร้าน ‘บะหมี่เจ๊อ้วน‘ ที่ถนนฉือฉาง เป็นร้านบะหมี่เป็ดย่างหมูแดง ข้าวหน้าเป็ด ข้าวหมูแดง มื้อนี้เราสั่งบะหมีแห้งเป็ดย่างค่ะ รสชาติใช้ได้ น้ำซุปที่ให้มาอร่อยค่ะ เป็ดย่างก็อร่อยค่ะ แต่ไม่ค่อยชอบเส้นบะหมี่ของเค้า เพราะไม่ค่อยเหนียวอ่ะ ออกแนวนิ่มๆ
บรรยากาศร้าน
Comments
Powered by Facebook Comments
Facebook
Google+
RSS