เปิดตัว iPhone 6S (ไอโฟน 6S) มาดูรีวิว สเปค อัปเดตฟีเจอร์ใหม่ กัน
เรียกว่า…สร้างความฮือฮา ในบ้านเราได้ไม่น้อย ในที่สุด Apple ก็ได้ทำการเปิดตัว iPhone 6s ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งในรุ่นนี้ เรียกได้ว่าในส่วนของสเปคนั้น มีการเปลี่ยนแปลงอยู่พอสมควร ในขณะที่ดีไซน์ ยังคงเหมือนกับรุ่นก่อนหน้า ข้อนำข้อมูลจากเว็บไซต์ Thaimobilecenter ที่ทำการรวบรวมข้อมูลสรุปทั้งในส่วนของสเปค และ ฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่เพิ่มเข้ามา ให้ได้ชมกัน ลองมาดูกันครับว่า iPhone 6s นั้นจะเปลี่ยนแปลงจากเดิมมากน้อยแค่ไหน
ข้อมูล สเปคในเบื้องต้นของ iPhone 6s
– ขนาดตัวเครื่อง 138.3×67.1×7.1 มิลลิเมตร
– น้ำหนักตัวเครื่อง 143 กรัม
– หน้าจอขนาด 4.7 นิ้ว ความละเอียด 1334 x 750 พิกเซล (326ppi)
– ใช้วัสดุเป็น อะลูมิเนียมซีรีส์ 7000 ที่มีความแข็งแรงมากขึ้น
– กระจกหน้าจอ ที่มาพร้อมกับขั้นตอนการผลิตแบบ ion‑exchange ให้ความแข็งแรงมากขึ้น
– ชิปประมวลผล Apple A9 (64-bit) พร้อมชิป M9 motion coprocessor
– รองรับระบบสัมผัสแบบใหม่ 3D Touch
– มาพร้อมกับ Taptic Engine ตอบสนองการสัมผัส
– กล้องดิจิตอลด้านหลัง ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล พร้อม True Tone flash
– กล้องดิจิตอลด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อม Retina Flash
– รองรับการถ่ายวีดีโอความละเอียดระดับ 4K
– รองรับการถ่ายภาพในโหมด Live Photos
– Bluetooth เวอร์ชัน 4.2
– 2nd Generation Touch ID ที่สามารถสแกน ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำขึ้น
การเปลี่ยนแปลงทางด้านดีไซน์ของ iPhone 6s
สำหรับในด้านของดีไซน์ นั้น ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเท่าไหร่นัก แต่ตัวเครื่องจะมีความหนา มากขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้า (iPhone 6) เล็กน้อย และมีน้ำหนักมากขึ้นจากเดิมพอสมควร โดย ตัวเครื่องมีความหนาอยู่ที่ 7.1 มิลลิเมตร ในขณะที่รุ่นก่อนหน้า มีความหนาเพียง 6.9 มิลลิเมตร เท่านั้น ส่วนน้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 143 กรัม ในขณะที่รุ่นก่อนหน้า มีน้ำหนักอยู่ที่เพียง 129 กรัมเท่านั้น นอกจากนี้ ด้านหลังของตัวเครื่อง ของ iPhone 6s นั้น จะมีการสกรีนตัวอักษร S อยู่ด้านหลังด้วย
iPhone 6s มาพร้อมกับ สีใหม่ Rose Gold
จากเดิมที่มีให้เลือกเพียง 3 สี ล่าสุดทาง Apple ก็ได้เพิ่มตัวเลือกใหม่อย่างสีชมพู Rose Gold เข้ามาให้ได้เลือกซื้อเรียบร้อยแล้ว ซึ่งตัวเครื่องนั้นก็เรียกได้ว่ามีความสวยงามมากเลยทีเดียว
iPhone 6s มาพร้อมกับวัสดุ อะลูมิเนียมซีรีส์ 7000 และกระจก ion-exchange
อีกหนึ่งความเปลี่ยนแปลงของ iPhone 6s นั่นก็คือในเรื่องของวัสดุที่นำมาใช้ โดยตัวเครื่อง iPhone 6s นั้นผลิตด้วย อะลูมิเนียมซีรีส์ 7000 ที่มีความแข็งแรงมากกว่าเดิมพอสมควร นอกจากนี้ กระจกหน้าจอยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีการผลิตแบบ ion-exchange ซึ่งส่งผลให้ตัวกระจกเองมีความแข็งแรงมากขึ้นกว่าเดิมพอสมควรเลยทีเดียว
iPhone 6s มาพร้อมกับชิปประมวลผล Apple A9 และ M9 motion coprocessor
สำหรับชิปประมวลผล Apple A9 นั้นเป็นชิปประมวลผลแบบ 64 บิต รุ่นใหม่ล่าสุดจาก Apple โดยมีความเร็วของหน่วยประมวลผลมากขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 70% และ หน่วยประมวลผลกราฟฟิคมีความเร็วมากขึ้นจากรุ่นก่อนหน้าถึง 90% เลยทีเดียว
ส่วน ชิป M9 นั้นก็สามารถประมวลผลการเคลื่อนไหวได้อย่างต่อเนื่องมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ชิป M9 ยังมีส่วนช่วยให้ Siri สามารถตอบสนองการใช้งานได้อย่างถูกต้องรวดเร็ว และแม่นยำมากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย
iPhone 6s มาพร้อมกับเทคโนโลยี 3D Touch
เรียกได้ว่าเป็นวิธีการควบคุมการใช้งานแบบใหม่ นอกเหนือจากการ แตะ ปัด หรือแม้แต่การ หนีบหรือกางนิ้วที่คุ้นเคย แต่สำหรับ 3D Touch นั้นจะเป็นเซ็นเซอร์ที่คอยตรวจจับรับรู้น้ำหนัก ที่คุณกดลงบนหน้าจอ เพื่อการควบคุมที่หลากหลายมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับ ระบบการควบคุมใหม่ ที่เรียกว่า Peek & Pop ที่สามารถตอบสนองการใช้งานตามน้ำหนักที่คุณกดลงบนหน้าจอได้อีกด้วย
iPhone 6s มาพร้อมกับ Taptic Engine
สำหรับ Taptic Engine นั้นเป็นการตอบสนอง การกดลงบนหน้าจอโดยการสั่นเบาๆ ตามน้ำหนักที่คุณกดลงไปบนหน้าจอ ซึ่งจะช่วยให้คุณทราบว่า คุณกำลังกดด้วยน้ำหนักเท่าไหร่ ซึ่งแต่เดิมนั้น Taptic Engine ได้ถูกนำมาใช้งานบน Apple Watch เพื่อตอบสนองการสัมผัสแบบ Force Touch นั่นเอง
iPhone 6s มาพร้อมกับกล้อง ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล
สำหรับ iPhone นั้นเรียกได้ว่า จำนวนความละเอียดของกล้องหลัง ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงมานานพอสมควร และในที่สุด iPhone 6s นั้นก็มาพร้อมกับกล้องดิจิตอลที่มีความละเอียดเพิ่มขึ้นเป็น 12 ล้านพิกเซลเรียบร้อยแล้ว โดยกล้องดิจิตอลด้านหลังของ iPhone 6s นั้นสามารถถ่ายวีดีโอด้วยความละเอียดสูงสุดถึงในระดับ 4K เลยทีเดียว
นอกจากนี้ ยังสามารถถ่ายภาพในโหมด Live Photos ที่ช่วยให้รูปภาพนั้นดูมีชีวิตขึ้นมาได้ โดยเมื่อเปิดการใช้งาน Live Photos ตัวเครื่องจะทำการบันทึกเหตุการณ์ก่อนหน้า เป็นระยะเวลาสั้นๆ เพื่อให้ออกมาเป็น Animation ที่สวยงามเหมือนกับรูปภาพนั้นกลับมามีชีวิตอีกครั้งเลยทีเดียว
iPhone 6s กับกล้องหน้า 5 ล้าน และ Retina Flash
สำหรับกล้องหน้าของ iPhone 6s นั้นก็มีความละเอียดเพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อนหน้าพอสมควร โดยมีความละเอียดอยู่ที่ 5 ล้านพิกเซล ในขณะที่รุ่นก่อนหน้ามีความละเอียดอยู่ที่เพียง 1.2 ล้านพิกเซลเท่านั้น
นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี Retina Flash ที่พร้อมจะเปลี่ยนหน้าจอ Retina ให้เป็นไฟแฟลช ในโทนที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม เมื่อคุณต้องการถ่ายภาพด้วยกล้องหน้าในสภาวะแสงน้อย
iPhone 6s กับ 2nd Generation Touch ID
สำหรับ iPhone 6s นั้น จะยังมาพร้อมกับการปรับปรุง ระบบ Touch ID ให้มีความรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดย 2nd Generation Touch ID นั้น จะช่วยให้สามารถตรวจจับลายนิ้วมือได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำมากยิ่งขึ้น
iPhone 6s จะมาพร้อมกับ iOS 9
และ แน่นอนว่า iPhone 6s นั้นก็จะมาพร้อมกับ ระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่ล่าสุดอย่าง iOS 9 ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ๆ มากมาย โดยสามารถเข้าไปชมข้อมูลเกี่ยวกับการสรุปฟีเจอร์เด่นของ iOS 9 ได้ที่นี่
iPhone 6s มาพร้อมความจุแบตเตอรี่ที่น้อยกว่า iPhone 6 แต่ประหยัดพลังงานมากขึ้นกว่าเดิม
แม้ว่าในงานเปิดตัวเมื่อคืนที่ผ่านมา Apple จะไม่ได้กล่าวถึงเรื่องของความจุแบตเตอรี่ แต่รายละเอียดดังกล่าวไปปรากฏอยู่ในคลิปโฆษณา iPhone 6s ที่มีการระบุความจุ 1715 mAh เมื่อเทียบกับ iPhone 6 ที่ใช้แบตเตอรี่ความจุ 1810 mAh พบว่าแตกต่างกันถึง 95 mAh เลยทีเดียว แต่ทางบริษัทก็ยืนยันว่าแบตเตอรี่ Li-Ion ตัวใหม่นี้เน้นพัฒนาด้านการประหยัดพลังงานให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น เพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้ยาวนาน และต่อเนื่องมากขึ้นนั่นเอง
ราคา และวันวางจำหน่าย ของ iPhone 6s
สำหรับราคา iPhone 6s ในต่างประเทศนั้น จะยังคงเป็นราคาเดียวกันกับเมื่อตอน iPhone 6 เปิดตัว ถึงแม้ว่าจะยังไม่มีการประกาศราคาในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ แต่ก็คาดว่า iPhone 6s นั้นจะมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 24,900 บาท สำหรับรุ่น 16GB และ 28,900 บาท สำหรับรุ่น 64 GB และ 32,900 บาท สำหรับรุ่น 128 GB โดยสำหรับวันวางจำหน่ายในประเทศไทย นั้นก็คาดว่าน่าจะอยู่ในช่วงปลายเดือน พฤศจิกายน – ธันวาคมนี้ ในขณะที่ ฝั่งอเมริกา และกลุ่มประเทศแรก จะเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 25 กันยายนนี้ แล้ว แต่อย่างไรก็ดี ข้อมูลราคา และ วันวางจำหน่ายในไทยที่แจ้งไปนั้น ยังไม่ใช่ข้อมูลอย่างเป็นทางการ ซึ่งก็คงต้องติดตามกันต่อไปครับ
Comments
Powered by Facebook Comments
Facebook
Google+
RSS