จานเบรค hdrive – H-Drive ถือเป็นแบรนด์ ชั้นนำในการ ตกแต่ง รถยนต์ที่ได้รับความ น่าเชื่อถือและ ไว้ใจการคนแต่ง รถยนต์มากมาย ซึ่งหลังจากที่ได้พัฒนาชุดโช๊ค และ เป็นที่ได้รับ ความนิยมแล้ว จึงได้พัฒนา ระบบเบรก หรือ Brake Kits ขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ ความต้องการของ ลูกค้าอีกด้วย โดย Brake Kits ของ H-Drive จะถูกแบ่งออกเป็น ทั้งหมด 2 Series
เมื่อจะเปลี่ยน จานเบรค h drive จะพบว่ามี ลักษณะของจานเบรค หลายแบบให้เลือก ทั้งจานเบรคแบบเรียบ ธรรมดาเหมือน ที่ติดมากับรถยนต์ทั่วไป จากโรงงาน, จานเบรคแบบเซาะร่อง, จานเบรคแบบเจาะรู, และจานเบรคที่ ทั้งเจาะรูและเซาะร่อง ซึ่งจานเบรคแต่ละ แบบจะมีจุดเด่น ที่แตกต่างกัน
จานเบรคแบบเรียบ
จานเบรคแบบเรียบ ที่ผลิตมาจากการนำเหล็ก มาหล่อให้มีลักษณะ เป็นจานเบรกมี ผิวหน้าเรียบปกติ มักพบเห็น ได้ว่าเป็นอุปกรณ์ มาตรฐานที่มาจากโรงงานกับ รถยนต์รุ่น ทั่วไป หากเปลี่ยนจานเบรค แล้วเลือกใช้จานเบรค ลักษณะนี้ข้อดีหนึ่งคือ จากลักษณะของผิวหน้า จานเบรคที่รียบจึง ทำให้มีอายุการใช้งานทั้งตัวจานเบรค และผ้าเบรคนาน กว่าจานเบรค แบบอื่น รวมทั้งยังเงียบ และไม่ทำให้เกิดฝุ่น จากการเบรค มากเมื่อเทียบ กับจานเบรคแบบอื่น ดังนั้นจานเบรคแบบเรียบตัน จึงเป็นทางเลือกที่ดี สำหรับคนที่มอง หาจานเบรคแทน ของเดิมที่มีลักษณะ เหมือนกับจานเบรคที่ติดรถ มาจากโรงงาน สำหรับการขับรถทั่วไป ในแต่ละวัน หรือหากพอใจ กับประสิทธิภาพ การเบรคจากจานเบรค แบบเรียบที่มากับ รถอยู่แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้อง เลือกใช้จานเบรค แบบอื่น
จานเบรคเซาะร่อง
จานเบรคที่ มีลักษณะถูกเซาะ เป็นร่องยาวบน ผิวหน้าจะช่วย เพิ่มประสิทธิภาพ การเบรคมากขึ้น กว่าจานเบรกแบบ เรียบปกติ จึงทำให้เหมาะ กับรถสมรรถนะสูง รถแข่งหรือรถ ที่บรรทุกหนัก รวมไปถึงรถเอสยูวี และรถออฟโรด ที่ต้องการประสิทธิภาพ การเบรคสูงขึ้น โดยร่องบน จานเบรคจะช่วยป้องกัน การเสียดสีที่น้อย ลงจากแก๊ซ ที่เกิดจากเบรค กำจัดเขม่าที่ เกิดจากความร้อน ของผ้าเบรคออกไป ทำให้ได้ใช้ เนื้อผ้าเบรคที่มี ความสดใหม่กว่า ในการเบรคครั้งต่อไป ส่งผลให้มีการจับ ตัวระหว่างผ้าเบรค กับจานเบรคดีขึ้น มีประสิทธิภาพ ที่สูงในการเบรคแม้ กับรถที่บรรทุกหนัก รวมทั้งยัง ช่วยระบายความร้อน ที่ผิวจานเบรคได้เร็วขึ้น
อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ควรรู้เกี่ยว กับจานเบรคแบบเซาะร่อง ก็คือจะมีอายุการใช้งาน ที่สั้นกว่าจานเบรค แบบอื่น รวมไปถึงยังทำ ให้ผ้าเบรคมี อายุการใช้งานที่สั้นด้วย
จานแบรคแบบเจาะรู
จานเบรคแบบ เจาะรูจะเพิ่มประสิทธิภาพ การหยุดมากขึ้น กว่าจานเบรคแบบเซาะร่อง เนื่องจากมีการจับ และเสียดสีมากขึ้น กว่าจานเบรคแบบ เซาะร่อง ในขณะที่ รูบนผิวหน้าของ จานเบรคจะช่วยให้ สามารถระบายความร้อน ได้มากขึ้น เนื่องจากรูบน จานเบรคทำให้ อากาศไหลเวียน ได้ดีกว่า ซึ่งแน่นอน ว่าด้วยคุณสมบัติ ของจานเบรค จึงทำให้เหมาะ สำหรับผู้ที่ ขับรถสมรรถนะสูง รวมทั้งยัง มักเห็นรถสมรรถนะสูง หลายรุ่นที่มี จานเบรคเจาะรู เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน มาพร้อมกับรถ แต่นอกจากนี้ จานเบรคแบบเจาะรู ยังมีประโยชน์ เมื่อขับรถใน สถานการณ์ที่ ฝนตกด้วย เพราะรูบนจานเบรค จะช่วยเป็น ช่องทางให้น้ำ ออกระบบเบรคได้ มากขึ้น รวมไปถึงยัง เป็นจานเบรค ที่มีน้ำหนักเบากว่า แบบอื่น
อย่างไรก็ตามแม้ จะเหมาะสำหรับ ใช้กับรถสมรรถนะสูง แต่จานเบรก แบบเจาะรูอาจ เกิดการแตกร้าวได้ เมื่อใช้กับรถแข่ง ซึ่งมักมีความร้อนสูง ในขณะแข่ง รวมไปถึงยังทน ต่อการเปลี่ยนแปลง ของการเปลี่ยน ความร้อนและเย็นซ้ำ ๆ กันได้ไม่มากนัก นอกจากนี้ยัง มักสึกหรอ ในลักษณะเป็น ร่องวนจากตรงกลาง เมื่อรูบนผิวจานเบรค มีรูปแบบไม่เรียบ
จานเบรคเจาะรูและเซาะร่อง
นี่เป็นการประนีประนอม ทั้งในด้านคุณสมบัติ ข้อดีและข้อเสีย ของจานเบรค ที่มีผิวหน้า ไม่เรียบทั้ง 2 แบบเข้าด้วยกัน ทั้งในด้านการระบาย ความร้อน การขจัดคราบบน ผ้าเบรคออกไปเพื่อ ให้ได้เนื้อผ้าเบรค ที่ใหม่สำหรับหยุดรถ หรือช่วยนำน้ำ ออกจากระบบเบรค เมื่อฝนตกแต่อย่างไร ก็ตามจานเบรค แบบนี้อาจไม่ได้มี คุณสมบัติด้านใด ที่ดีกว่าจานเบรค แบบใดแบบ หนึ่งโดยเฉพาะ
โดยทั่วไป มักเห็นรถยนต์หรู มีจานเบรกทั้ง เจาะรูและเซาะร่อง ติดมาให้เป็นอุปกรณ์ มาตรฐาน และด้วยคุณสมบัติ ของจานเบรค ที่ผสมผสานจึง ทำให้เหมาะกับทั้งรถที่ มีสมรรถนะสูงรวม ไปถึงรถออฟโรด และรถที่บรรทุก หนักด้วย
กลับสู่หน้าหลัก – songkhlalaow
Comments
Powered by Facebook Comments
Facebook
Google+
RSS