บ้านแฝด-จับตา ราคาที่อยู่อาศัยขึ้น โดยเฉพาะบ้านแฝด
บ้านแฝด-จับตา ราคาที่อยู่อาศัยขึ้น โดยเฉพาะบ้านแฝด ราคาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ในรอบครึ่งปีที่ผ่านมามีทิศทางการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สาเหตุหนึ่งมาจากต้นทุนราคาที่ดินที่สูงขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ต้องเพิ่มราคาที่อยู่อาศัยตามไปด้วย โดยจากการสำรวจของศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส ที่ได้ทำการสำรวจที่อยู่อาศัย 1,905 แห่ง ที่อยู่ระหว่างการขาย ประกอบด้วยบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ อาคารพาณิชย์ และห้องชุด ระหว่างเดือนธันวาคม 2559 ถึงเดือนมิถุนายน 2560 พบว่า ภาพรวมราคาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ และปริมณฑลมีทิศทางการปรับตัวเพิ่มขึ้น
ต้นทุนสูง ดันราคาที่อยู่อาศัยขึ้น
สาเหตุของการปรับราคาบ้านแฝดเพิ่มเนื่องมาจากการลงทุนของผู้ประกอบการที่มีต้นทุนการลงทุนที่สูงขึ้น โดยเฉพาะต้นทุนราคาที่ดิน ส่วนหนึ่งมาจากนโยบายการส่งเสริมการลงทุนในโครงการเมกกะโปรเจกต์ รวมถึงปัญหาภาวะเงินเฟ้อ ราคาค่าจ้างแรงงาน จึงส่งผลต่อต้นทุนการผลิตของผู้ประกอบการ แม้ว่าผู้ประกอบการรายใหญ่พยายามหาวิธีที่จะลดต้นทุนแรงงาน โดยการใช้ระบบเทคโนโลยีการผลิตผนังสำเร็จรูปเข้ามาใช้แทนให้มากขึ้นแล้วก็ตาม
ราคาบ้านแฝดขึ้นสูงสุด-ที่ดินจัดสรรคงที่
การเปลี่ยนแปลงราคาตลาดที่อยู่อาศัยเปรียบเทียบระหว่างราคาขายในเดือนธันวาคม 2559 กับราคาขายในเดือนมิถุนายน 2560 แยกตามประเภทบ้าน ได้ดังนี้
– บ้านเดี่ยว ราคาขายเพิ่มขึ้นจาก 6.262 ล้านบาท เป็น 6.296 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 0.55%
– บ้านแฝด ราคาขายเพิ่มขึ้นจาก 3.475 ล้านบาท เป็น 3.502 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 0.79%
– ทาวน์เฮ้าส์ ราคาขายเพิ่มขึ้นจาก 2.650 ล้านบาท เป็น 2.660 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 0.38%
– ตึกแถว ราคาขายเพิ่มขึ้นจาก 4.731 ล้านบาท เป็น 4.746 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 0.32%
– ห้องชุด ราคาขายเพิ่มขึ้นจาก 3.279 ล้านบาท เป็น 3.299 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 0.63%
– ที่ดินจัดสรร ราคาขายคงที่อยู่ที่ 3.685 ล้านบาท
ทั้งนี้ ราคาที่อยู่อาศัยเมื่อ 6 เดือนที่ผ่านมา เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 3.754 ล้านบาท ส่วนราคาที่อยู่อาศัยในเดือนมิถุนายน 2560 เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 3.774 ล้านบาท มีการปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 0.53% ซึ่งหากมองในภาพรวมแล้วจะเห็นได้ว่าในรอบนี้ที่อยู่อาศัยมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นทุกประเภท แต่มีการปรับเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้นตามภาวะตลาด เศรษฐกิจ และความต้องการซื้อของผู้บริโภค และต้นทุนการผลิตของผู้ประกอบการเป็นสำคัญ แต่ไม่มีการปรับลดราคาลงแต่อย่างใด
แม้ว่าในรอบนี้การเปลี่ยนแปลงราคาบ้านแฝดจะเพิ่มขึ้นไม่มากนัก แต่ก็ยังอยู่ในช่วงขาขึ้น และไม่มีทีท่าที่จะลดลง ซึ่งการที่ราคาที่อยู่อาศัยจะลดลงได้นั้นต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่าง อาทิ การเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ ประกอบกับภาครัฐมีโครงการพัฒนาด้านสาธารณูปโภคต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ทำให้ใครก็ตามที่กำลังรอให้ราคาที่อยู่อาศัยลดราคา คงต้อง “รอเก้อ” อย่างแน่นอน
อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้าน คอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน
ถามใครๆ ว่าต้องการที่อยู่อาศัยแบบไหน เกือบร้อยทั้งร้อยตอบ “บ้านเดี่ยว” แต่ด้วยเหตุผลด้านงบประมาณกับราคาขายทำให้หลายคนไม่สามารถซื้อได้ตามที่ต้องการ ดังนั้นทางเลือกหนึ่งสำหรับคนที่งบไม่พอสำหรับซื้อบ้านเดี่ยวคือบ้านแฝด
แต่ด้วยเป็นลักษณะสินค้าทดแทน (บ้านเดี่ยว) ทำให้ที่ผ่านมาการทำตลาดบ้านแฝดมีประปราย สินค้าไม่หลากหลาย ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ไม่ได้จริงจังกับการพัฒนาโปรดักต์ประเภทนี้เหมือนสินค้ากระแสหลักประเภททาวน์เฮ้าส์ บ้านเดี่ยว หรือคอนโด
อย่างไรก็ตามจากสัญญาณที่ออกจากดีเวลอปเปอร์หลายราย ปีนี้อาจเป็นปีแห่งการเริ่มต้นของการเปิดตลาดสินค้าประเภทบ้านแฝด ซึ่งผู้บริโภคอย่างเราน่าจะยินดีที่มีทางเลือกในชีวิตเพิ่มขึ้น
ตลาดบ้านแฝดเริ่มมา
ทดแทนบ้านเดี่ยวที่ราคาขยับสูงขึ้นมาก
ตลาดสินค้าแนวราบหรือบ้านจัดสรรเมื่อก่อนหลักๆ จะเป็นทาวน์เฮ้าส์กับบ้านเดี่ยว แต่หลายปีมานี้สินค้าประเภทบ้านแฝดเริ่มแทรกเข้ามา แม้สัดส่วนอาจจะแค่เล็กน้อยเมื่อเทียบกับทั้งตลาดที่อยู่อาศัยที่มีมูลค่ากว่า 4 แสนล้านบาท และมักถูกจัดกลุ่มอยู่ในประเภทเดียวกันกับบ้านเดี่ยว ไม่ได้ทำตลาดที่เป็นกิจจะลักษณะ แต่ปีนี้เราก็จะได้เห็นแบรนด์บ้านแฝดกันมากขึ้น
เหตุผลสำคัญน่าจะเกี่ยวกับเซ็กเมนต์ราคาของสินค้าที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะบ้านเดี่ยวที่ตอนนี้ราคาสตาร์ทที่ 5-6 ล้าน กำลังซื้อบ้านเดี่ยวในอดีตที่ปัจจุบันรายได้ยังไม่เปลี่ยนแปลง จำเป็นต้องหาสินค้าทดแทนในระดับราคาเท่าที่เคยซื้อได้ ก็คือบ้านแฝดที่ปัจจุบันเฉลี่ยราคาประมาณ 3-4 ล้าน ซึ่งเคยเป็นราคาบ้านเดี่ยวในอดีตนั่นเอง
จากกราฟที่แสดงจะเห็นว่าตลาดที่อยู่อาศัยกว่า 430,000 ล้านบาทเกินครึ่งเป็นคอนโดมิเนียม รองลงมาเป็นทาวน์เฮ้าส์ และบ้านเดี่ยว ขณะที่บ้านแฝดแม้จะมีสัดส่วนเพียง 5% แต่ก็เป็นสัดส่วนที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น สวนทางกับบ้านเดี่ยวที่เทรนด์กำลังเป็นขาลง จากเฉลี่ยเดิมที่กว่า 20% เหลือเพียง 18% เท่านั้น
การพัฒนาบ้านแฝดเกิดจากการหาช่องว่างในตลาดให้สินค้าตรงกับกำลังซื้อ ในขณะที่กำลังซื้อส่วนใหญ่เอื้อมไม่ถึงบ้านเดี่ยว แต่ความต้องการในแง่ของประโยชน์ใช้สอยแบบบ้านเดี่ยวยังมีอยู่ จึงเกิดสินค้าทดแทนประเภทบ้านแฝดขึ้น
ส่วนใหญ่แปลนของบ้านแฝดจะมีลักษณะคล้ายกับทาวนเฮ้าส์ 6 ม. เพียงแต่บ้านแฝดจะมีช่องเปิดด้านข้างด้านหนึ่ง และมีขนาดที่ดินกว้างกว่า ซึ่งตามข้อกฎหมายคือ 35 ตารางวาขึ้นไป
อย่างไรก็ตามปัจจุบันผู้ประกอบการนิยมทําบ้านแฝดในรูปแบบที่หลากหลายขึ้น แบบที่เชื่อมกันด้วยแค่คาน ผนังไม่ติดกัน หรือบ้านแฝดที่แยกอิสระทั้งสองด้าน ซึ่งมองยังไงก็เหมือนบ้านเดี่ยว แต่ทุกแบบฟังก์ชั่นและพื้นที่ใช้สอยมักทำใกล้เคียงบ้านเดี่ยว ดังนั้นความต่างจึงอยู่แค่ขนาดที่ดินซึ่งบ้านเดี่ยวจะใหญ่กว่าคือขั้นต่ำที่ดินต้อง 50 ตารางวาขึ้นไป ราคาจึงถูกกว่า และเป็นเหตุผลให้บ้านแฝดกลายเป็นสินค้าที่ผู้บริโภคต่างเรียกหา
ในแง่การตลาดสินค้าประเภทนี้มีชื่อเรียกหลากหลาย บ้านรุ่นใหม่, บ้านทรงอิสระ, บ้านแนวคิดใหม่ รวมถึงบ้านคู่ (Duo Home) ฯลฯ
อย่างที่รู้ปีนี้แบรนด์ใหญ่แทบทุกค่ายเพิ่มพอร์ตสินค้าแนวราบและประกาศเข้าตลาดครบทุกทุกเซ็กเมนต์ ที่เห็นชัดๆ คือการบุกตลาดทาวน์เฮ้าส์ โดยรายที่มีแบรนด์แข็งแรงอยู่แล้วก็เพิ่มโครงการมากขึ้น ส่วนรายที่ว่างเว้นทำตลาดมานานก็ปัดฝุ่นออกแบรนด์ใหม่
แต่สำหรับโกลเด้นแลนด์ที่ขณะนี้ถือว่าเป็นเบอร์สองในตลาดทาวน์เฮ้าส์กลับสวนกระแสเตรียมบุกตลาดบ้านแฝดแทน หลังกลับเข้าสู่ตลาดอสังหาฯ อย่างจริงจังเมื่อ 4-5 ปีก่อน โกลเด้นแลนด์อาศัยศักยภาพของทีมบริหารและบุคลากรที่ชำนาญในสินค้าทาวน์เฮ้าส์บุกตลาดด้วยสินค้าประเภทนี้จนติดตลาด ทั้งแบรนด์โกลเด้น ทาวน์และโกลเด้น ซิตี้
สำหรับสินค้าบ้านแฝดแต่ก่อนอาจพัฒนารวมอยู่กับสินค้าประเภทอื่นๆ เช่น รวมอยู่กับบ้านเดี่ยวในโครงการโกลเด้น วิลเลจ และรวมทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ บ้านแฝดในโครงการโกลเด้น อเวนิว แต่สำหรับปีนี้ประกาศบุกบ้านแฝดจริงจัง ภายใต้แบรนด์ “โกลเด้น นีโอ” ซึ่งตามแผนจะเปิดตัวใหม่ถึง 8 โครงการ ที่ผ่านมาได้เปิดตัวไปบ้างแล้ว 4-5 ทำเล เช่น โกลเด้น นีโอ ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์ และบางแค ขายดีจนต้องลงชื่อรอ
โกลเด้น นีโอ บางแค นวัตกรรมบ้านแฝดใหม่ล่าสุดที่โกลเด้นแลนด์ใช้เป็นเรือธงในการบุกตลาด
JSP ดัน J Villa บ้านแฝดสไตล์ยุโรป
เป็นอีกหนึ่งดีเวลอปเปอร์ที่เริ่มรุกตลาดบ้านแฝดจริงจัง จากก่อนที่หน้าที่สินค้าบ้านแฝดจะทำตลาดควบคู่กับบ้านเดี่ยว แต่ระยะหลังให้ความสำคัญกับสินค้าประเภทนี้มากขึ้น แบรนด์ J Villa ซึ่งแต่เดิมอาจมีบ้านเดี่ยวแซมอยู่บ้าง แต่โครงการใหม่ๆ ทั้งโครงการเป็นบ้านแฝดทั้งหมด เช่น J Villa รัตนาธิเบศร์-บางบัวทอง โครงการใหม่ที่จะเปิดตัวปีนี้ บ้านแฝดขนาดหน้ากว้าง 10 เมตร 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ จำนวน 182 ยูนิต ราคาเริ่มต้นประมาณ 4 ล้านบาท
บ้านแฝดในโครงการเจ วิลล่า วงแหวนบางใหญ่ แปลนเหมือนบ้านเดี่ยวยังไงยังงั้น ต่างกันตรงที่สร้างคานเชื่อมระหว่างบ้าน 2 หลัง หน้ากว้าง 10 เมตร 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ จอดรถ 2 คัน
ค่ายใหญ่ๆ (ยัง) ทำตลาดแบบรวมๆ
อย่างไรก็ตามการทำตลาดบ้านแฝดของค่ายใหญ่รายอื่นๆ ยังเป็นแบบรวมๆ ไม่มีแบรนด์บ้านแฝด โดยเฉพาะแม้ว่าในแต่ละปีแต่ละรายจะสร้างบ้านแฝดจำนวนไม่น้อย
ศุภาลัยเป็นอีกหนึ่งผู้ประกอบการที่ทำสินค้าประเภทบ้านแฝดค่อนข้างเยอะ ทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑลและต่างจังหวัด แต่เป็นบ้านแฝดที่พัฒนารวมอยู่ในโครงการบ้านเดี่ยวเสียเป็นส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตามปีนี้ศุภาลัยได้พัฒนาโปรดักต์แบรนด์ใหม่และปรับดีไซน์บ้านใหม่หลายแบบ เรียกว่าปรับโฉมดีไซน์ครั้งใหญ่ก็ว่าได้
ต้นปีนี้ได้เปิดตัวแบรนด์ใหม่ ESSENCE เป็นครั้งแรกที่เข้ามาทำสินค้าแนวราบทำเลในเมือง พร้อมกับการพัฒนาโปรดักต์ใหม่บ้าน 3 ชั้น ซึ่งโครงการนี้พัฒนาทั้งในรูปแบบของเดี่ยวและบ้านแฝด 3 ชั้น และทาวน์โฮมนอกจากนี้ได้ปรับคอนเซ็ปต์ดีไซน์และฟังก์ชั่นบ้านแฝดในโครงการต่างๆ ด้วย
บ้านแฝด 3 ชั้น ซึ่งเป็นโปรดักต์ใหม่ในโครงการ “เอสเซ้นส์ ลาดพร้าว”
บ้านแฝดดีไซน์ใหม่ ในโครงการศุภาลัย วิลล์ รามอินทรา 117
ส่วนออริจิ้นที่บุกตลาดแนวราบครั้งแรกลงตลาดทุกเซ็กเมนต์ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮมและบ้านแฝด แต่การทำตลาดบ้านแฝดก็ยังรวมอยู่กับบ้านเดี่ยว โดยสินค้าแนวราบของออริจิ้นประกอบด้วยบริทาเนีย เรสซิเดนซ์ บ้านเดี่ยวในระดับราคา 10-20 ล้านบาท, บริทาเนีย โฮม บ้านเดี่ยวและบ้านแฝดในราคา 5-10 ล้านบาท และบริทาเนีย ทาวน์ เป็นทาวน์โฮมและโฮมออฟฟิศ ราคา 3-5 ล้านบาท
Comments
Powered by Facebook Comments
Facebook
Google+
RSS